ในปัจจุบัน เหล่ามิจฉาชีพได้แฝงตัวเข้ามาในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการโจรกรรมทางออนไลน์ที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา นั่นทำให้เทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (Face Recognition Technology) เป็นหนึ่งในระบบที่ถูกพัฒนาและสามารถนำมาต่อยอดในการใช้ชีวิต
สำหรับระบบ Face Recognition Technology จะอาศัยลักษณะเฉพาะของใบหน้ามนุษย์ในการระบุตัวตน ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีจุดเด่นในด้านความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยสูง หากผู้ประกอบการที่กำลังมองหาตัวช่วยเพื่อให้ลูกค้าใช้บริการในธุรกิจได้อย่างมั่นใจ ลองมารู้ถึงประโยชน์ของเทคโนโลยี
ยืนยันตัวตนด้วยใบหน้ากันว่า จะส่งผลดีต่อการทำธุรกิจอย่างไรบ้าง ติดตามได้เลย
1. ยกระดับความปลอดภัยเทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้าเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากลักษณะเฉพาะของใบหน้ามนุษย์นั้นมีความเฉพาะตัวและยากต่อการปลอมแปลง เมื่อเทียบกับการใช้รหัสผ่านหรือบัตรประจำตัวอื่นๆ ที่อาจถูกขโมยหรือปลอมแปลงได้ง่ายกว่า การนำเทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้ามาใช้จึงช่วยยกระดับความปลอดภัยให้กับธุรกิจได้
ตัวอย่างการนำมาใช้เพื่อยกระดับความปลอดภัยของธุรกิจ เช่น- ธนาคารและสถาบันการเงิน ได้นำเทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้ามาใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ เพื่อป้องกันการโจรกรรมทางไซเบอร์
- สถานที่ราชการและองค์กรต่างๆ ได้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในการเข้า-ออกพื้นที่ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ร้านค้าและห้างสรรพสินค้า ได้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในการซื้อสินค้า เพื่อป้องกันการทุจริตและฉ้อโกง
2. เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วเทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้าเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากเพียงแค่ผู้ใช้แสดงใบหน้าให้กล้องก็สามารถระบุตัวตนได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาในการจดจำรหัสผ่านหรือกรอกข้อมูลต่างๆ การนำเทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้ามาใช้จึงช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้กับธุรกิจได้
ตัวอย่างการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วของธุรกิจ เช่น- สายการบินและสนามบิน ได้นำเทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้ามาใช้ในการเช็คอินและขึ้นเครื่องบิน เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการบริการ
- โรงแรมและที่พัก นำมาปรับใช้ในการเช็คอินและเช็คเอาท์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า
- ร้านค้าและร้านอาหาร นำมาใช้ในการจ่ายเงิน เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการบริการ
3. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้าสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับธุรกิจได้ เนื่องจากช่วยให้ธุรกิจสามารถลดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินการต่างๆ ได้ ตัวอย่างเช่น การนำมาใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ จะช่วยลดความยุ่งยากในการจดจำรหัสผ่านและการทำรายการต่างๆ ส่งผลให้ลูกค้าสามารถดำเนินการธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น
4. เพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าสามารถช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ เนื่องจากช่วยให้ลูกค้ารู้สึกได้รับความสะดวกสบายและรวดเร็วในการใช้บริการ ตัวอย่างเช่น ในการนำมาใช้เช็คอินและขึ้นเครื่องบิน จะช่วยลดความยุ่งยากในการกรอกข้อมูลและรอคิว ส่งผลให้ลูกค้ารู้สึกได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
จากประโยชน์ข้างต้น จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้าเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงในการยกระดับความปลอดภัย เพิ่มความสะดวกและรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งเทคโนโลยีนี้จึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต