ในยุคสมัยที่ผู้หญิงมีบทบาทหลากหลาย การมีลูกอาจไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเสมอไป หลายคนต้องเผชิญกับภาวะมีบุตรยาก เทคโนโลยีทางการแพทย์จึงพัฒนา "การฝากไข่" ขึ้นมาเพื่อช่วยผู้หญิงที่ต้องการมีลูกในอนาคต ซึ่งการ
ฝากไข่ คืออะไร บทความนี้จะพาไปรู้จักพร้อมกัน
การฝากไข่คืออะไร? การฝากไข่ หรือ Oocyte Cryopreservation คือเทคโนโลยีที่เก็บรักษาไข่ของผู้หญิงไว้โดยใช้ความเย็นจัด เมื่อถึงเวลาต้องการมีลูก แพทย์จะนำไข่ที่เก็บไว้มาผสมกับอสุจิเพื่อปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนและนำไปฝังในโพรงมดลูก
การฝากไข่เหมาะกับใคร?- ผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมมีลูกในปัจจุบัน แต่ต้องการวางแผนมีลูกในอนาคต
- ผู้หญิงที่มีภาวะมีบุตรยาก
- ผู้หญิงที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือฉายรังสี
- ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงรังไข่เสื่อมเร็ว
ขั้นตอนการฝากไข่- ปรึกษาแพทย์ โดยแพทย์จะประเมินความเหมาะสมและตรวจสุขภาพโดยรวม
- กระตุ้นการตกไข่ โดแยแพทย์จะจ่ายยาเพื่อกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่
- เก็บไข่ โดยแพทย์จะใช้เข็มดูดไข่ออกจากรังไข่ผ่านช่องคลอด
- แช่แข็งไข่ โดยไข่ที่เก็บได้จะถูกแช่แข็งด้วยความเย็นจัด
- การปฏิสนธิและฝังตัวอ่อน เมื่อต้องการมีลูก แพทย์จะนำไข่ที่เก็บไว้มาผสมกับอสุจิ และนำตัวอ่อนที่ได้ไปฝังในโพรงมดลูก
การดูแลตัวเองก่อนการฝากไข่ การดูแลตัวเองก่อนการฝากไข่ มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของกระบวนการ โดยวิธีดูแลตัวเองเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการฝากไข่ คือ
การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและได้ฟื้นฟูฮอร์โมน โดยควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
การทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อกระบวนการฝากไข่ จึงควรทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ผักใบเขียว และผลไม้
การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนเลือดดี อีกทั้งยังช่วยลดความเครียด
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย และอาจส่งผลต่อคุณภาพของไข่ โดยควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนและหลังการฝากไข่
การสูบบุหรี่ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์และอาจส่งผลต่อคุณภาพของไข่
การมีน้ำหนักตัวมาก หรืออ้วน อาจมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างการฝากไข่ โดยควรควบคุมน้ำหนักให้ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
ความเครียดส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกายและอาจส่งผลต่อคุณภาพของไข่ จึงควรหาเวลาผ่อนคลายความเครียด เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ โยคะ หรือทำสมาธิ
ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองก่อนการฝากไข่ โดยแพทย์จะตรวจสุขภาพโดยรวม ประเมินความเหมาะสม และแนะนำวิธีดูแลตัวเองที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
การดูแลตัวเองก่อนการฝากไข่ คือกระบวนการที่ช่วยให้ร่างกายพร้อม ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์และช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน