ผู้เขียน หัวข้อ: ชุดแม่บ้าน: เคล็ดลับง่ายๆ สำหรับการดูแลรักษาชุดยูนิฟอร์ม  (อ่าน 250 ครั้ง)

siritidaphon

  • บุคคลทั่วไป
หลายคนอาจจะเจอปัญหาเกี่ยวกับเสื้อผ้ายูนิฟอร์มที่ไม่คงทน ใส่ยังไม่ถึง 1ปี เสื้อสีซีดและดูเก่ากว่าอายุการใช้งานของเสื้อผ้าที่เป็นจริง เหตุผลอาจจะมีหลากหลายปัจจัย เช่น คุณภาพของผ้า หรือ คุณภาพในการตัดเย็บ แต่เราก็ไม่อาจมองข้ามในเรื่องของการดูแลรักษาเสื้อผ้า  หรือการไม่มีเวลาดูแลรักษาชุดอย่างเพียงพอ โดยเฉลี่ยระยะเวลาและจำนวนชุดที่ให้กับพนักงานของนโยบายแต่ละบริษัทนั้น บางบริษัทให้ชุดพนักงาน 3 ชุด ต่อ 1ปี  ซึ่งต้องรีบซักทำความสะอาดเพื่อวนกลับมาใช้ให้ทัน ดังนั้นการดูแลรักษาชุด ถ้าเราสละเวลาส่วนหนึ่งหันมาเอาใจใส่ชุดยูนิฟอร์มของเราก็จะทำให้ยืดอายุการใช้งานของชุดเหล่านี้ไปได้มากยิ่งขึ้น เลยมีเคล็ดลับดีๆมาฝากท่านลูกค้ากันลองรับชมและไปลองปรับใช้กับเสื้อผ้าของท่านเองดูนะครับ

ปรับการซักแบ่งเป็นชนิดของผ้าแบบคร่าวๆ เช่นผ้าบาง(พวกชีฟอง หรือซาตินเนื้อบางเป็นต้น) *ผ้าบางจริงๆแล้วไม่ควรซักเครื่อง



1. การแยกเสื้อผ้าก่อนซัก

อันนี้ค่อนข้างสำคัญหลายคนอาจจะมีความรู้พื้นฐานบางส่วนแล้วเรื่องการแยกผ้าสี กับผ้าขาว แต่มันอาจจะไม่เพียงพอ สำหรับคนที่เน้นการซักเครื่องเป็นหลักเราอาจจะปรับการซักแบ่งเป็นชนิดของผ้าแบบคร่าวๆ เช่นผ้าบาง(พวกชีฟอง หรือซาตินเนื้อบางเป็นต้น) *ผ้าบางจริงๆแล้วไม่ควรซักเครื่อง แต่ทางเราเข้าใจในเรื่องของเวลาสำหรับลูกค้าบางท่านที่อาจจะไม่มีเวลามาซักมือ แต่อาจจะต้องดูเครื่องซักผ้าที่มีฟังค์ชั่นในการซักแบบถนอมผ้า  ซึ่งผลที่ออกมาไม่ได้แย่อย่างที่หลายคนกังวล. เนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ของแบรนด์เครื่องซักผ้าหลากหลายที่ออกมาแข่งขันกัน ดังนั้นเทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามาช่วยทำให้เราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าใครไม่มีฟังค์ชั่นเหล่านี้อาจจะต้องลองปรับเองในโหมดของการปั่นผ้า โดยไม่ให้ปั่นเร็วมากเกินไปเพราะจะสร้างความเสียให้ให้กับเส้นใยของเสื้อผ้าได้, ส่วนผ้าหนาปานกลางถึงหนา มาก. ถ้ามีเวลาอยากให้แยซักผ้าต่างหากอีกส่วนหนึ่ง

การแช่ผ้าก่อนซัก ซัก 4-5 ชม. แต่ต้องดูผงซักฟอกที่เราใช่ด้วยว่าเป็นน้ำยาชนิดแรงมั้ย ในเรื่องของน้ำยาซักผ้า



2.เสื้อผ้าบางอย่างต้องซักด้วยมือ

ดังที่กล่าวไปในข้อ 1. ก็คงไม่เว้นเป็นผ้าบาง แต่หลายคนอาจจะเจอปัญหาการซักมืออาจจะไม่สะอาด (เพราะแรงมือแต่ละคนในการขยี้ไม่เท่ากันทำให้ไม่อาจจะคาดเดาว่าชุดยูนิฟอร์มของเราจะสะอาดได้มากน้อยเพียงใด) ซึ่งทางเรามีเทคนิคนำเสนอให้ โดยการแช่ผ้าก่อนซัก ซัก 4-5 ชม. แต่ต้องดูผงซักฟอกที่เราใช่ด้วยว่าเป็นน้ำยาชนิดแรงมั้ย ในเรื่องของน้ำยาซักผ้า ในต่างประเทศนั้นหลายประเทศนิยมใช้เป็นชนิดน้ำ เนื่องจากมีการเจือจางละลายได้ดีกว่าชนิดผง เพราะถ้าชนิดผงใส่เยอะเกินไปหรือซักล้างออกไม่หมด ทำให้เวลาเสื้อผ้าแห้งแล้วจะเห็นเป็นคราบผงที่ยังไม่ละลาย. จริงอยู่ว่าการปัดก็สามารถทำให้คราบผงซักฟอกหลุดออกไป  แต่สำหรับบางคนที่ผิวหนังมีการระคายเคืองกับผงซักฟองก็อาจจะมีปัญหาก็เป็นได้ เราได้ทดสอบว่าการแช่ผ้าได้ผลดีกว่าการที่เราซักเลยโดยไม่แช่ผ้า โดยในข้อมูลเชิงลึก แต่ละเส้นใยของผ้ามีการอมน้ำไม่เท่ากัน ดังนั้นถ้าให้เวลาน้ำได้แทรกซึมผ่านเส้นใหญ่จนเต็ม ก็จะทำให้คราบหลุดออกมาได้บางส่วน ที่เหลือทางเราก็มาซักด้วยมืออีกที บางพื้นผิวของชุดเรานั้นอาจจะไม่ได้สกปรกมากหนักก็แค่แช่อย่างเดียวจุ่มขึ้นจุ่มลงก็เพียงพอแล้ว เพราะยิ่งการขยี้ผ้าเป็นประจำ ในระยะยาวมีผลทำให้เส้นใย เปลี่ยนแปลงได้อีกด้วย ดังนั้นเสื้อผ้าบางอย่างเราอาจจะหลีกเลี่ยงการซักมือไม่ได้ แต่เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้เราถนอมเสื้อผ้ายูนิฟอร์มและมือของเราได้ด้วย

ดูผงซักฟอกที่เราใช่ด้วยว่าเป็นน้ำยาชนิดแรงมั้ย ในเรื่องของน้ำยาซักผ้า ในต่างประเทศนั้นหลายประเทศนิยมใช้เป็นชนิดน้ำ เนื่องจากมีการเจือจางละลายได้ดีกว่าชนิดผง เพราะถ้าชนิดผงใส่เยอะเกินไปหรือซักล้างออกไม่หมด ทำให้เวลาเสื้อผ้าแห้งแล้วจะเห็นเป็นคราบผงที่ยังไม่ละลาย


3. การคุมอุณหภูมิ

เราต้องรู้ว่าผ้าแต่ละประเภทของเราเหมาะกับอุณหภูมิของน้ำที่เท่าไหร่  เราจะสังเกตได้จากป้าย care label ที่แนะนำเราได้   โดยทั่วไปแล้วซักในน้ำอุณหภูมิปกติของบ้านเราจะดีที่สุด ซึ่งทางต่างประเทศ อาธิประเทศที่เป็นเมืองหนาวอาจจะมีเครื่องทำน้ำร้อนที่เป็นระบบใช้ทั้งบ้านอันนี้อาจจะต้องระวังและดูป้าย care label กำกับเป็นพิเศษ เพราะอาจจะเผลอปรับเป็นโหมดน้ำร้อนในเครื่องซัก หรือตัวก๊อกเป็นแบบร้อนที่จ่ายน้ำเข้าเครื่อง เพราะถ้าผ้าบางชนิดเมื่อใช้น้ำอุณหภูมิที่ไม่เหมาะกับผ้าอาจจะทำให้เส้นใยของผ้าเสียหายได้ทั้งทีหลักจากการซักเสร็จ และเราต้องควรระวังสำหรับเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ๆที่มีระบบอบแห้งในตัว เพราะระบบอบแห้งถ้าเราตั้งค่าไม่ดี. ใช้ความร้อนในการอบเยอะเกินไปจะทำให้เส้นใยเสื้อผ้าของเราเสียรูปโครงสร้างจนไม่สามารถคืนสภาพให้เหมือนเดิมได้ ดังนั้นการซื้อเครื่องซักผ้าก็เป็นปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่เราต้องศึกษาก่อนซื้อเพื่อจะได้เครื่องที่เหมาะกับเสื้อผ้าของเราและเหมาะกับประเทศโซนร้อนอย่างบ้านเราด้วย


ให้สังเกตุป้าย care label ด้วยว่าซักธรรมดา(ด้วยมือ) ได้มั้ยหรือเป็น Dry Clean Only (ซักแห้งเท่านั้น) แต่ทางทฤษฎีแล้วซักแห้งน่าจะดีที่สุดสำหรับผ้าชนิดนี้ เนื่องจากผ้าขนสัตว์ Wool ไม่นิยมซักกันอยู่แล้วในต่างประเทศ
เสื้อขนสัตว์หรือแปลกๆ ควรระวังก่อนซัก


4. เสื้อขนสัตว์หรือแปลกๆ

ให้สังเกตุป้าย care label ด้วยว่าซักธรรมดา(ด้วยมือ) ได้มั้ยหรือเป็น Dry Clean Only (ซักแห้งเท่านั้น) แต่ทางทฤษฎีแล้วซักแห้งน่าจะดีที่สุดสำหรับผ้าชนิดนี้ เนื่องจากผ้าขนสัตว์ Wool ไม่นิยมซักกันอยู่แล้วในต่างประเทศ เนื่องจากบ้านเราอาจจะไม่คุ้นชินกับเส้นใย wool เหมือนในประเทศเขตหนาว wool เป็นเส้นใยจากขนสัตว์ ในเส้นใยอาจจะเป็น wool 100% ก็ได้หรืออาจจะมีผสมตามสัดส่วนของผ้าแต่ละประเภทที่ต้องการหรือต้องการทำราคาที่เข้าถึงคนใช้มากขึ้น เพราะ wool ยังแบ่งเป็นอีกหลากหลายเกรด ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในเสื้อสูท เทเลอร์ ของผู้ชายมากกว่า ซึ่งหลายท่านลูกค้าผู้ชายคงทราบดีว่า ผ้า wool ตารางเมตร(หลา)  ไม่ถูกเลยและยังไม่รวมกับค่าตัด wool บ้านเราที่นำเอาเข้ามาอาจจะ เฉลี่ยแพงที่สุดที่ทางเราเคยเห็น ตารางหลาละ 3,000++ ก็มี หรืออาจจะมีแพงกว่านั้น ที่อยู่ในร้านตัดสูทที่พรีเมี่ยม (เหมือนในภาพยนตร์เรื่อง Kingsman) ถ้าไม่ชัวร์หรือป้าย care label นั้นหลุดหายไป ไม่ต้องเสี่ยงขอแนะนำซักแห้งอย่างเดียว เส้นใย wool ไม่ควรซักบ่อยโดยปกติ อาจจะใช้น้ำยาสำหรับเสื้อผ้าที่มีกลิ่นหอม ฉีดใช้ก็พอ (ในต่างประเทศนิยมใช้กัน เป็นขวดสเปรย์ไว้ฉีด)

สำหรับคนที่พิถีพิถันเรื่องของกลิ่นเสื้อผ้าเป็นพิเศษ เคล็ดลับคือ ตู้เสื้อผ้าหรือในห้องเราไม่ควรมีความชื้นมากเกินไป. ถ้าเสื้อผ้ายังไม่แห้งดี หรือรีดผ้าแล้วพรมน้ำ ในเส้นใยอาจจะมีความชื้นที่หลงเหลือในเส้นใย


5. ใช้ไม้ซีดาร์แทนลูกเหม็น

ข้อนี้เป็นการแนะนำการเก็บรักษาเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าที่เราไม่ค่อยเอาออกมาหมุนเวียนใช้บ่อยๆ หรือสำหรับคนที่พิถีพิถันเรื่องของกลิ่นเสื้อผ้าเป็นพิเศษ เคล็ดลับคือ ตู้เสื้อผ้าหรือในห้องเราไม่ควรมีความชื้นมากเกินไป. ถ้าเสื้อผ้ายังไม่แห้งดี หรือรีดผ้าแล้วพรมน้ำ ในเส้นใยอาจจะมีความชื้นที่หลงเหลือในเส้นใย

ซึ่งไม่ควรรีบเอาเข้าตู้เสื้อผ้าทันทีควรผึ่งข้างนอกสักพักหลังรีดเสร็จ แล้วค่อยนำเข้าตู้

สังเกตุจากป้าย care label ว่าให้รีดได้อุณหภูมิเท่าไร หรือถ้าไม่มีป้าย เราอาจจะต้องรู้โดยคร่าวๆว่าพื้นฐานของผ้าเราเป็นเส้นใยธรรมชาติหรือเส้นใยสังเคราะห์
การรีดผ้า


6.การรีดผ้า

สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ต้องสังเกตุจากป้าย care label ว่าให้รีดได้อุณหภูมิเท่าไร หรือถ้าไม่มีป้าย เราอาจจะต้องรู้โดยคร่าวๆว่าพื้นฐานของผ้าเราเป็นเส้นใยธรรมชาติหรือเส้นใยสังเคราะห์

เสื้อใยธรรมชาติอาจจะทนความร้อนได้ดีกว่าเส้นใยสังเคราะห์เนื่องจากเส้นใยสังเคราะห์เมื่อโดนความร้อนมากเกินไปจะทำให้โครงสร้างเส้นใยจะเปลี่ยนรูปทรง ให้เราคิดภาพตามว่าเส้นใยผ้าในมุมมองด้านตัดเป็นทรงกลมเหมือนเส้นเชือก แต่ถ้าโดนความร้อนกดทับเส้นใยจะแบน และโดยทั่วไปไม่สามารถกลับมาคืนตัวได้ ผลกระทบที่เกิดจากผ้าเราจะเห็นเด่นชัด เสื้อผ้าเราจะขึ้นเงามาทันที หรือแม้แต่การรีดเสื้อผ้าบ่อยๆ หรือชุดที่เราใช้ประจำก็จะทำให้ปรากฎเงาขึ้นมาในระยะหลัง เป็นเรื่องปกติของการใช้งาน ถ้าเป็นไปได้การรีดที่ถนอมผ้ามากที่สุดอาจจะเป็นเครื่องรีดแบบสตรีม อบไอน้ำ ที่แขวนเสื้อไว้แล้วก็ใช้เครื่องที่มีสายหัวสตรีมรูดไปกับผ้า. เหมือนในร้านขายเสื้อในห้างจะดีที่สุดเพราะมันจะไม่มีแรงกดทับ


7. การวางแผนการซักผ้า จะเป็นสิ่งที่ช่วยในการหมุนวนเสื้อผ้าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยในการที่ทำให้เรามีเวลาเอาใจใส่และถนอมผ้าของเราได้ด้วย



ชุดแม่บ้าน: เคล็ดลับง่ายๆ สำหรับการดูแลรักษาชุดยูนิฟอร์ม อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://uniformdeluxe.com/

 

ลงประกาศฟรี ติด google ลงโฆษณา ขายของ ฟรี โพสต์ฟรี ลงประกาศฟรี ขายฟรี ขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ประกาศฟรี ขายฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google