การตรวจพบ
ก้อนเนื้อที่ปอด มักจะทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกกลัวและวิตกกังวลว่าอาจจะเป็นมะเร็งปอดหรือไม่ แต่ความเจริงแล้ว ก้อนเนื้อในปอดอาจมีสาเหตุมาจากหลายสิ่ง ทั้งที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตราย ดังนั้น ผู้ป่วยจึงควรตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
ก้อนเนื้อที่ปอดเกิดจากอะไรได้บ้าง ก้อนเนื้อในปอด (Lung Nodule) มีลักษณะเป็นมวลผิดปกติขนาดเล็กในปอดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 3 เซนติเมตร ซึ่งก้อนเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- มะเร็งปอด เป็นโรคที่น่ากังวลมากที่สุด โดยมะเร็งปอดเป็นสาเหตุของก้อนเนื้อในปอดประมาณ 20-30%
- การติดเชื้อ เช่น วัณโรค ฟองอากาศจมปอด หรือติดเชื้อราต่าง ๆ
- ภาวะหลอดลมอักเสบเรื้อรัง เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
- นิ่วในปอด เกิดจากแคลเซียมสะสมในปอด
- เนื้องอกเบนิญ เช่น ไฟบรอยด์ ฮามาร์โทมา หรือเนื้องอกเยื่อหุ้มปอด
- ก้อนเลือดอุดตันหลอดเลือด หรือลิ่มเลือดอุดกั้นปอด
- รอยแผลเป็นจากการบาดเจ็บในอดีต เช่น ถูกกระแทกบริเวณปอด ก็สามารถทำให้เกิดก้อนเนื้อที่ปอดได้เช่นกัน
การวินิจฉัยและการรักษาก้อนเนื้อที่ปอดเมื่อตรวจพบก้อนเนื้อในปอดครั้งแรก แพทย์จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ซักประวัติและตรวจร่างกาย เพื่อประเมินปัจจัยเสี่ยงและอาการต่าง ๆ
- เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เพื่อดูลักษณะและขนาดของก้อนเนื้อที่ปอด
- การเจาะชิ้นเนื้อ ซึ่งในบางกรณีแพทย์จะต้องเจาะเพื่อนำชิ้นเนื้อไปตรวจหาเชื้อโรคหรือมะเร็ง
สำหรับการรักษาก้อนเนื้อที่ปอด จะขึ้นอยู่กับสาเหตุของก้อนเนื้อ ดังนี้
- หากก้อนเนื้อไม่น่าจะเป็นมะเร็ง แพทย์อาจติดตามอาการและให้รักษาตามสาเหตุ เช่น ยาปฏิชีวนะสำหรับการติดเชื้อ ยารักษาวัณโรค เป็นต้น
- หากมีแนวโน้มเป็นเนื้องอกเบนิญ แพทย์อาจแนะนำการผ่าตัดเพื่อนำก้อนเนื้อออก
- หากเป็นมะเร็งปอด การรักษาอาจต้องใช้การผ่าตัดเพื่อนำมะเร็งออก ร่วมกับการฉายแสง เคมีบำบัด หรือการรักษาด้วยฮอร์โมนหรือยาเฉพาะเจาะจง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็งและระยะของโรค
หากพบก้อนเนื้อที่ปอด จะรักษาหายไหม โดยทั่วไป หากก้อนเนื้อนั้นไม่ใช่มะเร็ง จะมีโอกาสหายเป็นปกติสูงมากหลังจากได้รับการรักษาตามสาเหตุ แต่หากเป็นมะเร็งปอด ต้องได้รับการรักษาอย่างเคร่งครัด โดยโอกาสที่จะหายเป็นปกติขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะของมะเร็ง ชนิดของมะเร็ง อายุและสภาพร่างกายผู้ป่วย เป็นต้น
ดังนั้น การตรวจพบก้อนเนื้อที่ปอดไม่ได้หมายความว่าเป็นมะเร็งปอดเสมอไป แต่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยที่ละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด หากเป็นมะเร็งจริง การรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการกลับมาใช้ชีวิตปกติได้มาก หรือแม้จะเป็นมะเร็งในระยะสุดท้าย การรักษาประคับประคองก็ยังมีความสำคัญในการบรรเทาอาการ ไม่ให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดจากโรคดังกล่าวได้